นโยบายการรับเร่ืองร้องเรียนหรือเบาะแส

ข้อมูลสำคัญ

อนุมัติ ณ วันที่ เห็นชอบโดยคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565
อนุมัติโตยคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565
วัตถุประสงค์การใช้งาน แนวทางปฏิบัติ
ผู้รับผิดชอบ* คณะกรรมการทำกับดูแลกิจการ
ผู้ติดตามและรายงาน สำนักกฎหมายและงานกำกับดูแล

* หมายเหตุ : ผู้รับผิดชอบ หมายถึง คณะกรรม มการชุดย่อยซึ่งมีหน้าที่ จัดให้มีนโยบาย วางกรอบแนวทางการกำกับดูแลการดำเนินการที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ทบทวน ให้ข้อเสนอแนะ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินการของนโยบาย

หลักการและเหตุผล

บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ("บริษัท" และบริษัทย่อย (รวมเรียกว่า "กลุ่มบริษัท") ตระหนักถึงความสำคัญ ของการตำเนินงานอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ตึ จึงได้จัดให้มี มาตรการกำกับดูแลและกำหนดช่องทางสำหรับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายทั้งภายในและ ะภายนอก ซึ่งรวมถึงพนักงานของ มมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติ กลุ่มบริษัททุกคน ("พนักงาน") ในการร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสต่าง ๆ ตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายว่า สิทธิของ ผู้มีส่วนได้เสียนั้นจะได้รับการปฏิบัติดูแลอย่างดีที่สุดจากบริษัทด้วยความเป็นธรรมและเท่าเทียม

ขอบเขตนโยบาย

นโยบายการรับเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแส ("นโยบาย") นำมาใช้กับกรรมการของบริษัททุกท่าน ("กรรมการ") ผู้บริหารของบริษัท (พนักงานตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการฝ่ายจนถึงระดับกรรมการผู้จัดการ) และพนักงาน

  1. วัตถุประสงค์
    1. บริษัทได้กำหนดนโยบายขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการแจ้งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำที่อยู่ในข่ายต้อง สงสัยว่าอาจเป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับการตำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท ("การรับเรื่องร้องเรียน" และมีการ จัดการกับเรื่องร้องเรียนตังกล่าวอย่างรวดเร็วและเหมาะสม นยบายมีผลบังคับใช้กับกรรมการและพนักงาน ทุกระดับในองค์กร
    2. เพื่อสนับสนุนให้พนักงานแจ้งข้อเท็จจริงอันมีมูลกี่ยวกับการกระทำที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าอาจเป็นความผิด ตามนโยบาย โตยพนักงานสามารถมั่นใจได้ว่าบริษัทจะตำเนินการกับเรื่องร้องเรียนของพนักงานอย่าง เข้มงวดและจะทำการสืบสวนเรื่องราวตามความเหมาะสม บริษัทจะปกป้องพนักงานที่แจ้งเรื่องร้องเรียนอันมี มูลโดยสุจริต แม้จะปรากฎในภายหลังว่าเรื่องร้องเรียนตังกล่าวเป็นความเข้าใจผิด นอกจากนี้ บริษัทจะดำเนินการต่าง ๆ ย่างเหมาะหมเที่อดัมละหงพนักงานแทะบุลคมภายนะกจากหวามเสียหาย หรือ การถูกทำร้ายหรือการถูกคุกคามวันมีตาเหศจากการแจ้งเรื่ยงร้องเรียนตังกล่าว
  2. คำนิยามของการรับเรื่องร้องเรียน การรับเรื่องร้องเรียน หมายถึง การรับข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งภายในและภายนอกองค์กร การกระทำที่สงสัยว่าฝ่าฝืนกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ จรรยาบรรณ หรือนโยบายต่างๆ การปฏิบัติที่ไม่เป็นธรม การกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่กลุ่มบริษัท การบกพร่องด้านสินค้าหรือบริการ รวมถึงข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบริษัท และการกระทำที่เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยและ สุขภาพของบุคคลหรือสิ่งแวดล้อม
  3. การปฏิบัติตามนโยบาย บริษัทสนับสนุนให้พนักงานแจ้งข้อเท็จจริงผ่านช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสของบริษัท โดยให้ข้อมูล หลักฐานที่ชัดเจนเพียงพอเกี่ยวกับการการกระทำความผิดหากพบเห็นหรือประสบกับการกระทำอยู่ในข่ายต้องสงสัย ว่าอาจเป็นความผิดตามนโยบาย ในกรณีที่การกระทำไม่ปรากฎแน่ชัดว่าขัดต่อนโยบาย พนักงานสามารถปรึกษา ผู้บังคับบัญชา หรือสามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสเพื่อตรวจสอบต่อไป
  4. บุคคลที่สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแส พนักงานหรือบุคคลภายนอกที่พบเห็นหรือสงสัยโดยสุจริตว่ามีกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน หรือบุคคลใด ๆ ที่กระทำการแทนกลุ่มบริษัท มีการกระทำความผิดตามคำนิยามในข้อ 2 ทั้งนี้ ไม่ว่าตนเองจะได้รับความเสียหาย หรือไม่ รวมถึงควรแจ้งข้อมูลในการติดต่อเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารกับบริษัทด้วย อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีหลักฐาน ปรากฎชัดเจนเพียงพอว่าผู้แจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสมีพฤติการณ์ชัดแจ้งว่า แจ้งหรือกล่าวหาผู้ถูกร้องเรียนโดย ไม่สุจริต บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อปกป้องชื่อเสียงของผู้ถูกร้องเรียน ดังนี้
    1. ในกรณีที่ผู้แจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสเป็นพนักงาน ให้ดำเนินการสอบสวน เพื่อพิจารณาลงโทษตามวินัย
    2. ในกรณีที่ผู้แจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบ าะแสเป็นบุคคลภายนอก และกลุ่มบริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทอาจ พิจารณาดำเนินคดีกับผู้แจ้งเรื่องร้องเรียนนี้ด้วย
  5. กระบวนการแจ้งเรื่องร้องเรียน
    1. ให้พนักงานแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสเป็นลายลักษณ์อักษรแก่ผู้บังคับบัญชาตามสายงาน / ส่วนงาน / สำนักงานหรือสำนัก ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาตามสายงาน / สวนงาน / สำนักงานหรือสำนักของพนักงาน ควรให้ ความช่วยเหลือพนักงานในการดำเนินการกับข้อร้องเรียนของพนักงานอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หรือ ในกรณีที่พนักงานไม่ต้องการแจ้งเรื่องดังกล่าวกับบุคคลดังกล่าวด้วยสาเหตุประการใดก็ตาม สามารถแจ้ง เรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
      ทางโทรศัพท์ : หัวหน้างานตรวจสอบภายใน
      ที่หมายเลข 0-2783-9000 ต่อ 9040
      หัวหน้าสานักกฎหมาย งานกำกับดูแล และเลขานุการบริษัท
      ที่หมายเลข 0-2783-9000 ต่อ 9019
      ทางอีเมล : SSC-ComSec@sermsukplc.com
      ส่วนงานเลขานุการบริษัท
      SSC-whistleblowing@sermsukplc.com
      สานักกฎหมาย ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และฝ่ายตรวจสอบภายใน
      SSC-CGC@sermsukplc.com
      คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ
      ทางไปรษณีย์ : คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ บริษัท เสริมสุข จากัด (มหาชน)
      ที่อยู่ 90 อาคาร ซีดับเบิ้ล ยู ทาวเวอร์ ชั้น ที่ 31-32 ถนนรัชดาภิเษก
      แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
      ทั้งนี้ บริษัทอาจมีการแต่งตั้งบุคคลอื่นเป็นครั้งคราวเพื่อให้พนักงานสามารถติดต่อในเรื่องดังกล่าวได้ซึ่งบริษัทจะประกาศการแต่งตั้งดังกล่าวให้พนักงานทราบโดยทั่วกัน
    2. หลังจากที่บุคคลตามข้อ 5.1 ได้รับเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแส จะมีการรวบรวบข้อมูล ประมวลผลบริหาร จัดการ และตรวจสอบเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแส หากมีมูลความจริง จะนำเสนอผลการตรวจสอบให้ กรรมการผู้จัดการ ประธานคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัท แล้วแต่กรณี
    3. ภายหลังการพิจารณา ดำเนินการ แก้ไข ปรับปรุงตามเรื่องร้องเรียนหรือเบาแสที่ได้รับมาแล้ว บริษัทจะแจ้งผล การดำเนินการให้ผู้ร้องเรียนหรือผู้แจ้งเบาะแสที่บริษัทสามารถติดต่อได้ทราบตามขั้นตอนและภายใน ระยะเวลาที่เหมาะสม
  6. การให้ความคุ้มครองผู้แจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสและบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ร้องเรียนหรือผู้แจ้งเบาะแสรวมถึงผู้ที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริง บริษัทจะถือว่าข้อมูลการแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสดังกล่าวเป็นความลับ โดยจะไม่เปิดเผยชื่อ ที่อยู่ ภาพ หรือ ข้อมูลอื่นใดของผู้ร้องเรียนหรือผู้แจ้งเบาะแสและผู้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริงรวมถึงกำหนดมาตรการ คุ้มครองในกรณีที่ผู้นั้นเห็นว่าตนอาจได้รับความไม่ปลอดภัยหรืออาจเกิดความเดือดร้อนเสียหาย โดยผู้ได้รับความ เดือดร้อนเสียหายจะได้รับการบรรเทาความเสียหายด้วยกระบวนการที่มีความเหมาะสมและเป็นธรรม เว้นแต่เป็นการ เปิดเผยตามที่กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งนี้ บุคคลใด ๆ ที่ได้รับทราบเรื่องการแจ้งเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแส หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเรื่องร้องเรียน หรือเบาะแสตามนโยบายนี้ จะต้องปกป้องข้อมูลเรื่องการร้องเรียนหรือการแจ้ งเบาะแส หรือที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการ ร้องเรียนหรือการแจ้งเบาะแส ให้เป็นความลับ และไม่เปิดเผยต่อบุคคลอื่น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและ ความเสียหายของผู้แจ้งร้องเรียนหรือเบาะแส แหล่งที่มาของข้อมูล หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เว้นแต่กรณีที่มีความจำเป็นใน ขั้นตอนการดำเนินการตามนโยบายนี้ หรือตามที่กฎหมายกำหนด หากมีการจงใจฝ่าฝืนหรือประมาทเลินเล่อนำข้อมูล ออกไปเปิดเผย บริษัทจะดำเนินการลงโทษทงวินัย และเหรือดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืน แล้วแต่กรณี
  7. บทลงโทษ
    หากมีการกระทำการใดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ดังต่อไปนี้
    1. แจ้งข้อร้องเรียนหรือเบาะแสอันเป็นเท็จหรือทุจริต หรือ
    2. เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแส เว้นแต่กรณีที่มีความจำเป็นในขั้นตอนการดำเนินการตามนโยบายนี้ หรือตามที่กฎหมายกำหนด หรือ
    3. กระทำการคุกคาม รวมถึงสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้แจ้งข้อร้องเรียนอันมีมูลตามนโยบาย
    บุคคลผู้กระทำการดังกล่าวจะถูกพิจารณาความผิดทางวินัย และ/หรือดำเนินการทางกฎหมายต่อไป